ประวัติคอลลาเจน

 ในการแพทย์แผนจีน แนะนำให้บริโภคกระดูกอ่อนของสัตว์เพื่อรักษาความผิดปกติของข้อต่อมาเป็นเวลาหลายพันปี อันที่จริง นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเงน นักเวทย์มนตร์แห่งศตวรรษที่ 12 กล่าวถึงคุณธรรมของสต็อกเนื้อลูกวัวในเรื่องนี้

ในปี 1871 ผลงานของนักวิจัย Richard Leach Maddox นำไปสู่การใช้เจลาตินในการถ่ายภาพ การผลิตเจลาตินเชิงอุตสาหกรรมเริ่มขึ้นในปี 1870 ภายในปี 2543 การผลิตทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 250,000 ตันต่อปี ในช่วงทศวรรษที่ 1980 นักวิจัยชาวยุโรปบางคนเริ่มให้ความสนใจในคุณค่าที่เป็นไปได้ของคอลลาเจนไฮโดรไลเสตในการรักษาปัญหาข้อต่อ อาหารเสริมกระดูกและข้อ

 การวิจัยคอลลาเจน

ในการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ใช้คอลลาเจนชนิด II (ทำจากกระดูกอ่อนไก่) ในปริมาณเล็กน้อย ในกรณีของโรคภูมิต้านตนเองนี้ นักวิจัยได้ทดลองผลของคอลลาเจนในรูปของ “วัคซีน” 1,2 แผ่นงานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งานประเภทนี้ เนื่องจากคอลลาเจนชนิดนี้ไม่มีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

ประสิทธิภาพไม่แน่นอน โรคข้อเข่าเสื่อม กลไกการออกฤทธิ์ของคอลลาเจนในข้อต่อยังคงเป็นเรื่องของการเก็งกำไร ข้อมูลในหลอดทดลองแนะนำว่าอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน3,4 หากเป็นกรณีนี้ อาหารเสริมตัวนี้ไม่เพียงแต่จะบรรเทาปัญหาข้อต่อเท่านั้น แต่ยังช่วยชะลอการเริ่มมีอาการได้อีกด้วย

บทวิจารณ์สามรายการได้พิจารณาถึงประสิทธิภาพของคอลลาเจนในการบรรเทาอาการปวดและความตึงที่เกิดจากโรคข้อเข่าเสื่อม 4-6 ฉบับหนึ่งซึ่งตีพิมพ์ในปี 2549 อาหารเสริมกระดูกข้อเข่า  ระบุการทดลองที่ไม่มีการควบคุมสี่ฉบับซึ่งตีพิมพ์ในปี 1980 (รวม 370 วิชา) และการทดลองที่ควบคุมด้วยยาหลอกแบบปกปิดทั้งสองด้าน 3 ฉบับ (720 วิชา) การทดลองที่ควบคุมด้วยยาหลอกสองการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในแง่ของการลดความเจ็บปวด (10 กรัมต่อวันเป็นเวลา 14 และ 24 สัปดาห์) นอกจากนี้ยังมีข้อบกพร่องด้านระเบียบวิธีที่สำคัญ ได้แก่ อัตราการออกกลางคันสูงและขาดการวิเคราะห์ทางสถิติ5 ผลลัพธ์ที่ระบุโดยการสังเคราะห์เหล่านี้จึงไม่สามารถสรุปได้4-6